ตาชั้นเดียว vs ตาสองชั้น
คนที่มีตาชั้นเดียวมักทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นคนไม่กระตือรือร้น และน่าเบื่อ ทำให้คนจำนวนมากเลือกที่จะเข้ารับการผ่าตัดทำตาสองชั้น
ชนิดของตาในคนเอเชีย แบ่งเป็น 3 แบบ คือ
-
ตาชั้นเดียว
-
ตาสองชั้นหลบใน
-
ตาสองชั้น
ซึ่งก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดตาสองชั้นควรที่จะศึกษาถึงข้อดีข้อเสียของการผ่าตัดและลักษณะรูปตาที่ต้องการให้เป็น รวมถึงลักษณะรูปตาเดิมของเราก่อนด้วย
ผ่าตัดตาสองชั้น
โดยการผ่าตัดในปัจจุบันมีหลักๆ 3 แบบคือ
-
โดยใช้ไหมเย็บหรือผ่าแบบไม่เปิดแผล (Closed technique): หรือที่แพทย์มักใช้คำว่า “เย็บ 3 จุด” เป็นการผ่าตัดที่นิยมในคนอายุน้อย โดยการเย็บมีหลายเทคนิค แต่หลักการเหมือนกันคือการเย็บเอาส่วนของกล้ามเนื้อที่ใช้เปิดตา (Levator aponeurosis) ให้มาดึงที่ผิวหนัง เพื่อให้เกิดตาสองชั้นขึ้น
ข้อดี: ไม่มีบาดแผลที่ผิวหนัง และแผลหายเร็ว
ข้อเสีย: มีโอกาสไหมหลุด หรือชั้นตาเลือนหายไปได้ โดยเฉพาะในคนที่มีเปลือกตาอูม
-
โดยการผ่าตัดหรือแบบเปิดแผล (Open technique): การผ่าตัดนี้จะมีการเปิดแผลที่บริเวณชั้นตาเพื่อเอาเนื้อเยื่อส่วนที่เกินออกก่อนที่จะทำการเย็บให้เกิดชั้นตา ซึ่งเนื้อเยื่อส่วนที่เกินนี้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนเป็นตาชั้นเดียว
ข้อดี: เกิดชั้นตาที่ถาวรมากกว่า ทำให้เกิดชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า และสามารถผ่าตัดร่วมกับการผ่าตัดอื่นๆ
ข้อเสีย: การพักฟื้นหลังผ่าตัดจะนานกว่าแบบไม่เปิดแผล
-
โดยการผ่าตัดแบบแผลเล็ก (Small incision technique): การผ่าตัดนี้จะมีการเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 1 เซนติเมตร เพื่อนำเนื้อเยื่อส่วนที่เกินออกก่อน และทำการเย็บให้เกิดชั้นตาจึงเป็นการรวมการผ่าตัดทั้งสองแบบข้างต้นเข้าด้วยกัน
ข้อดี: การพักฟื้นเร็วกว่าแบบเปิดแผลยาว และสามารถนำเนื้อเยื่อส่วนเกินบางส่วนออกได้ ทำให้เกิดชั้นตาที่ถาวร
ข้อเสีย: ใช้ได้ดีเฉพาะในคนที่อายุน้อยและไม่ต้องการแก้ไขเปลือกตาอูมหรือหย่อนด้านหางตา