ตาไม่เท่ากันคืออะไร? ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโดยปกติตาทั้งสองข้างของคนเราไม่ได้มีขนาดที่เท่ากันอยู่แล้ว แต่หลายคนอาจไม่ได้สังเกตเห็นความแตกต่าง อย่างไรก็ตาม ในบางคนอาจสังเกตเห็นความแตกต่างของขนาดดวงตาทั้งสองข้างได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจ และอาจกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาวได้อีกด้วย บทความนี้ จึงอยากพาไปทำความรู้จักกับภาวะตาไม่เท่ากันว่าคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และเป็นอันตรายหรือไม่ รวมถึงวิธีแก้ไขตาไม่เท่ากันทั้งแบบผ่าตัด และไม่ผ่าตัด
ตาไม่เท่ากัน คืออะไร?
ตาไม่เท่ากัน คือ ลักษณะของโครงสร้างใบหน้าทั้งจากส่วนกระดูกกระบอกตา หรือส่วนของเปลือกตา หรือ คิ้วที่ทำให้มองเห็นดวงตาทั้งสองข้างมีขนาดแตกต่างกันอย่างชัดเจน หรือขาดความสมมาตรกัน ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โครงหน้าสองข้างต่างกัน ความสูง หรือความต่ำของคิ้ว ความลึกของเบ้าตา รวมไปถึงขนาดหรือการเปิดของหนังตาที่ไม่เท่ากัน โดยปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลต่อความสวยงาม เช่น ใบหน้าขาดความสมดุล ดูไม่มีมิติ รู้สึกขาดความมั่นใจ
ดวงตาที่สวย สมดุล ต้องมีลักษณะแบบไหน
โดยทั่วไปรูปทรงของดวงตาแต่ละคนมักมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป เช่น ทรงอัลมอนด์ ทรงตาแมว หรือดวงตากลมโต แต่สำหรับดวงตาที่สวย และสมดุลต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
ดวงตาเปิดจนเห็นตาดำได้อย่างชัดเจน หรือเปลือกตาปิดลงมาไม่เกิน 1-2 มิลลิเมตร เพราะหากน้อยกว่านี้ อาจทำให้ตาดูเหนื่อย หรือตาปรือ รวมถึงอาจทำให้มีปัญหาในการมองเห็น ทำให้ต้องคอยเลิกคิ้ว หรือเพ่งมองสิ่งต่างๆ บ่อยขึ้น
ขอบตาล่างต้องพอดีกับขอบตาดำ เพราะหากอยู่ต่ำเกินไป จะทำให้เห็นพื้นที่ตาขาวเพิ่มขึ้น และดูตาลอย แต่ถ้าขอบตาล่างอยู่สูงเกินไปก็อาจทำให้หางตาดูชี้ขึ้น และตาดูเล็กแหลม
เบ้าตาไม่ลึก หรือนูนมากเกินไป เพราะเบ้าตาลึกทำให้ดูมีอายุ ส่วนเบ้าตาที่นูนมากเกินไปทำให้ดูตาบวม หรือเห็นชั้นตาไม่ชัดเจน
ความยาวของชั้นตาต้องพอดีกับหางตา เพราะชั้นตาที่ยาวกว่าหางตามากๆ อาจทำให้ดูมีอายุ
ตาดำอยู่ตรงกลางดวงตาพอดี สำหรับผู้ที่มีหนังตาเยอะ และปิดบริเวณหัวตา ทำให้แลดูเหมือนตาเข
ระยะห่างระหว่างตา และคิ้วอยู่ห่างกันพอดี เพราะหากระยะห่างระหว่างตา และคิ้วชิดกันเกินไปจะทำให้ตาดูลึก และเห็นขอบเบ้าตาชัดเจน
ตาไม่เท่ากันเกิดจากอะไรบ้าง
ปัญหาตาไม่เท่ากันสามารถเกิดขึ้นได้จากความผิดปกติของร่างกาย และปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น การใช้ชีวิต หรืออุบัติเหตุ โดยมีตัวอย่าง ดังนี้
ตาไม่เท่ากันแต่กำเนิด
ปัญหาตาไม่เท่ากันแต่กำเนิดสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เกิดจากกล้ามเนื้อที่เปลือกตาไม่เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถลืมตาได้อย่างเต็มที่ เพราะหนังตาตกลงมาปิดบริเวณตาดำมากกว่าคนทั่วไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับดวงตาเพียงข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ ส่งผลให้มองเห็นภาพไม่ชัดเจน หรือมีภาวะตาขี้เกียจตามมาได้
โครงสร้างกระดูกเบ้าตาไม่เท่ากัน เกิดจากบริเวณของเบ้าตาทั้งสองข้างมีระดับความสูง หรือความลึกที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ชั้นตา และดวงตาดูไม่เท่ากันตามไปด้วย
ระดับความสูงต่ำของคิ้วทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ส่งผลให้ตำแหน่งของดวงตาดูไม่เท่ากัน ซึ่งสามารถเกิดจากโครงสร้างต่างๆ บนใบหน้า เช่น โครงสร้างกระดูกใบหน้า กล้ามเนื้อตา หรือลักษณะของเปลือกตา
ใบหน้าขาดความสมมาตร เช่น ใบหน้าไม่เท่ากัน หรือใบหน้าไม่สมส่วนกัน ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของกระดูกโครงหน้า
อายุที่เพิ่มมากขึ้น
อายุที่เพิ่มมากขึ้นอาจก่อให้เกิดปัญหาตาไม่เท่ากันได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่อาจมีหนังตาตกลงมา ซึ่งเกิดจากความหย่อนคล้อยตามวัย การสะสมไขมันที่มากขึ้นบริเวณเปลือกตา หรือปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา
การมีปัญหาตาไ่ม่เท่ากัน อาจเป็นอาการของความผิดปกติ หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตาได้ เช่น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด และการเปิดของชั้นตาที่ไม่เท่ากัน หรือ พบเกิดอาการตาโปน จากการสะสมของไขมันในกระบอกตาจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ หรือ ก้อนเนื้อบริเวณลูกตา ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจโดยจักษุแพทย์
การประสบอุบัติเหตุบริเวณรอบดวงตา
การเกิดอุบัติเหตุรุนแรง แบ่งเป็น
การบาดเจ็บต่อระบบประสาท ที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อกระบอกตา กล้ามเนื้อเปิดตา ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อเปิดตา หรือ กล้ามเนื้อหน้าด้านที่เกิดอุบัติเหตุอ่อนแรง
เกิดการบาดเจ็บโดยตรงของกล้ามเนื้อตาเปิดหรือกล้ามเนื้อตาด้านนั้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หนังตาตก คิ้วตก และตาดูไม่เท่ากันได้
การทำศัลยกรรมตาสองชั้นมาก่อน
ปัญหาตาไม่เท่ากันในบางกรณีเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการทำศัลยกรรมตาสองชั้น เช่น การทำตาสองชั้นด้วยวิธีการเย็บจุด โดยไม่ได้ตัดหนังตาส่วนเกินออก ทำให้ชั้นตาหลุดลงมา หรือการศัลยกรรมตาสองชั้น โดยไม่ได้รักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงของคนไข้ก่อน
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมบางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่ การแสดงสีหน้า การขยี้ตา การใช้กล้ามเนื้อตาจ้องหน้าจอโทรศัพท์เป็นเวลานานๆ หรือการไม่ใส่แว่นกันแดดปกป้องสายตา อาจส่งผลให้ตาไม่เท่ากันได้
ตาไม่เท่ากัน ส่งผลเสียอย่างไร ทำไมต้องแก้ไข?
โดยส่วนใหญ่การมีตาสองข้างไม่เท่ากัน มักส่งผลต่อความสวยงามบนใบหน้า ทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจ หรือสร้างความรำคาญใจในการใช้ชีวิต เช่น ทำให้หน้าตาดูไม่สดใส ดูไม่เป็นมิตร เพราะตาดูปรือเหมือนคนเหนื่อย และง่วงนอนตลอดเวลา หรือทำให้ต้องแต่งหน้านานกว่าปกติ เพราะต้องติดสติกเกอร์ให้ตาเท่ากัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ในบางกรณียังส่งผลเสียต่อการมองเห็นอีกด้วย เช่น หนังตาตกลงมาปิดตาดำมากเกินไป ทำให้ต้องเพ่ง หรือคอยเลิกคิ้วอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้สามารถมองเห็นได้เต็มที่ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ
แนวทางรักษา และวิธีแก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน
ปัญหาตาไม่เท่ากัน สามารถรักษาและแก้ไขได้ด้วยทั้งวิธีการผ่าตัด และการไม่ผ่าตัด ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการร่วมด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้
วิธีแก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันแบบไม่ผ่าตัด
สำหรับผู้ที่มีปัญหาตาไม่เท่ากัน แต่ไม่ต้องการผ่าตัด สามารถใช้วิธีเหล่านี้ในการแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งมีทั้งการแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง หรือการทำหัตถการต่างๆ ดังนี้
การใช้เทคนิคแต่งหน้า
การแต่งหน้าถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยปกปิดจุดด้อยบนใบหน้า หรือปัญหาตาไม่เท่ากันได้ เช่น การติดสติกเกอร์บริเวณชั้นตาที่ตก การไฮไลต์ และการคอนทัวร์บริเวณดวงตา หรือการเขียนคิ้วใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถปรับเปลี่ยนทรงผม เพื่อช่วยอำพรางปัญหาตาไม่เท่ากันได้อีกด้วย
ข้อดี มีราคาถูกกว่าการทำหัตถการ สามารถหาซื้ออุปกรณ์ และทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
ข้อเสีย เป็นการแก้ปัญหาที่ชั่วคราว และไม่สามารถใช้กับกรณีที่มีปัญหาตาไม่เท่ากันที่รุนแรงได้
การฉีดโบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์ใช้ในกรณีของปัญหาตาไม่เท่ากันที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น การเลิกคิ้ว หรือเลิกหน้าผาก รวมถึงผู้ที่ริ้วรอยขนาดเล็กบริเวณดวงตา เช่น รอยตีนกา รอยย่นใต้ตา หรือรอยขมวดคิ้ว โดยแพทย์จะฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินที่รบกวนการทำงานของระบบประสาทเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อหน้าผาก หรือหางตา เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว
ข้อดี ช่วยให้ผิวไม่เกิดรอยพับ หรือริ้วรอย
ข้อเสีย ถ้าฉีดมากเกินไปบริเวณดวงตาอาจทำให้ตาดูแข็งได้
การฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ใช้กับผู้ที่มีปัญหาตาโหล เบ้าตาลึก หรือชั้นตาไม่เท่ากัน โดยแพทย์จะฉีดสารไฮยาลูรอนเข้าไปบริเวณเปลือกตา หรือชั้นตา เพื่อทดแทนไขมัน หรือตกแต่งให้ชั้นตาดูชัดเจนขึ้น
ข้อดี เห็นผลเร็ว ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
ข้อเสีย มีอายุอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี แล้วสลายไปตามธรรมชาติ และอาจมีอาการบวมในช่วงแรกที่ฉีด และ มีภาวะแทรกซ้อนต่อระบบเส้นเลือดรอบตาและการมองเห็น
การร้อยไหม
การร้อยไหม เพื่อแก้ตาตก ยกหางตา หรือยกคิ้ว มักนิยมใช้กับผู้ที่มีหนังตาหย่อนคล้อยเป็นอย่างมาก และตาไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด โดยแพทย์จะสอดไหมละลายแบบเงี่ยงลงไปที่ชั้นผิวหนัง เพื่อดึงให้ผิวหนังตึง และเป็นทรงตามแนวเส้นไหม
ข้อดี เห็นผลได้ทันทีหลังทำ ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน และไหมสามารถละลายไปเองภายใน 4-5 เดือน
ข้อเสีย หากแพทย์ขาดความชำนาญอาจทำให้ผิวไม่เรียบ เป็นก้อน หรือเป็นอันตรายกับอวัยวะใกล้เคียงได้ และเป็นการแก้ไขที่ไม่คงทนถาวร
การทำหัตถการยกกระชับ
การทำหัตถการที่ช่วยยกกระชับ เช่น Ulthera และ Thermage เป็นอีกวิธีแก้ตาไม่เท่ากันได้ เพราะสามารถช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย และริ้วรอยรอบดวงตา รวมถึงช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงมากขึ้น
ข้อดี เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างสูง และอาจรู้สึกเจ็บตอนทำ นอกจากนี้ อาจมีผลข้างเคียง เช่น บวมแดง ช้ำ หรือชา ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังทำ และผลอาจไม่ชัดเจน หรือต้องทำซ้ำหลายครั้ง
วิธีแก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันแบบผ่าตัด
แก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันด้วยการผ่าตัด หรือการศัลยกรรมตา โดยการเลือกใช้วิธีนี้จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยความรุนแรง และการประเมินของแพทย์ ร่วมกับการพูดคุยกับคนไข้ เช่น
การศัลยกรรมตาสองชั้น
การศัลยกรรมตาสองชั้น upper blepharoplasty คือ การผ่าตัดเพื่อสร้างชั้นหนังตาขึ้นมาใหม่ เพื่อช่วยให้ตาดูโต สดใส และได้รูปทรงที่ต้องการ รวมถึงใช้เพื่อแก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันที่เกิดจากปัญหาการเกาะของชั้นตา โดยการศัลยกรรมตาสองชั้นก็มีหลายเทคนิค เช่น การกรีดสั้น การกรีดยาว การเปิดหัวตา หรือการเย็บ 3 จุด
ข้อดี ใช้เวลาพักฟื้นน้อย และสามารถปรับรูปทรงตาได้ตามที่ต้องการ
ข้อเสีย จำเป็นต้องตัดไหม หรือบางเทคนิคอาจเสี่ยงที่ชั้นหนังตาจะหลุดได้
การศัลยกรรมกล้ามเนื้อเปิดตา
การศัลยกรรมดึงกล้ามเนื้อเปิดตา Ptosis Correction เป็นวิธีแก้ไขตาไม่เท่ากัน โดยแพทย์จะทำการแก้ไขการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อเปิดตา โดย การดึงหรือลดระยะการเปิดตา เหมาะกับเคสที่มีตาไม่เท่ากันจากการอ่อนแรง
ข้อดี เป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด
ข้อเสีย เป็นการผ่าตัดที่ทำโดยแพทย์เฉพาะทาง จักษุตกแต่งหรือศัลยกรรมตกแต่ง หากทำกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจมีผลข้างเคียงผิดพลาดจากการผ่าตัดได้
ผ่าตัดกระดูกเบ้าตา (Orbital surgery)
การผ่าตัดกระดูกเบ้าตา (Orbital Surgery) คือ การศัลยกรรมบริเวณเบ้าตา เหมาะกับผู้มีปัญหาก้อนในกระบอกตา จากปัญหาไทรอยด์ หรือ ก้อนเนื้อในกระบอกตา หรือ อุบัติเหตุต่อกระบอกตา เช่น การรักษากระดูกแตก การผ่าตัดนำเนื้องอกออก การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเบ้าตา หรือการตัดกระดูก และไขมันเพื่อรักษาผลจากการเป็นไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น โดยวิธีการที่แพทย์เลือกใช้จะขึ้นอยู่กับปัญหา หรืออาการของคนไข้
ข้อดี ช่วยแก้ไขได้อย่างตรงจุดโดยเป็นการรักษา เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงต่อดวงตาและการมองเห็น
ข้อเสีย มีผลข้างเคียงเช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่นๆ เช่น แผลฟกช้ำ เลือดออก แผลเป็น หรือการติดเชื้อ
การทำศัลยกรรมแก้ไขตาไม่เท่ากันดีกว่าอย่างไร?
ปัจจุบันมีวิธีแก้ปัญหาตาไม่เท่ากันหลายวิธี เช่น การติดสติกเกอร์บริเวณหนังตา การฉีดโบท็อกซ์ หรือการฉีดฟิลเลอร์ แต่การศัลยกรรมแก้ตาไม่เท่ากัน เช่น การผ่าตัดตกแต่งชั้นตา หรือการศัลยกรรมตาสองชั้น ถือเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร และมีข้อจำกัดที่น้อยกว่า จึงสามารถใช้กับผู้ที่มีปัญหามาก หรือผู้สูงอายุได้ ทั้งนี้ในบางรายอาจจำเป็นต้องใช้การศัลยกรรมหลายๆ วิธีร่วมกัน
การเตรียมตัวก่อน และหลังแก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากัน
การเตรียมตัวก่อน และการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันมีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ และยังช่วยให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วยิ่งขึ้น
การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมแก้ไขตาไม่เท่ากัน
แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการรักษาของตนเอง เช่น โรคประจำ ยาประจำตัว อาหารเสริมที่รับประทาน และประวัติการแพ้ยา หรือแพ้อาหาร
งดสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
งดอาหารเสริม และสมุนไพรต่างๆ รวมถึงยาในกลุ่มแอสไพริน หรือไอบิวโพรเฟน เพราะสามารถส่งผลให้เกิดเลือดคั่ง หรือรอยฟกช้ำหลังการผ่าตัดได
ควรสระผม และพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการผ่าตัด
ควรเตรียมวันหยุดไว้อย่างน้อย 3 วัน
งดใส่คอนแทคเลนส์ และแต่งหน้าในวันผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมแก้ไขตาไม่เท่ากัน
ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตา หรือหน้าผากติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน โดยสามารถทำได้ทันทีหลังผ่าตัด
กินยาตามที่แพทย์สั่ง และมาพบแพทย์ตามนัด
เริ่มประคบอุ่นในวันที่ 3 หลังการผ่าตัด
ห้ามให้แผลโดนน้ำ เช่น สระผม อาบน้ำ หรือล้างหน้าจนกว่าจะตัดไหม
งดอาหารแสลงหลังการผ่าตัด เช่น อาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารรสจัด และแอลกอฮอล์ รวมถึงงดสูบบุหรี่
งดใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตา และงดการใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลา 3 สัปดาห์
ศัลยกรรมแก้ตาไม่เท่ากันที่ไหนดี?
การศัลยกรรมแก้ตาไม่เท่ากันควรเลือกสถานพยาบาล หรือคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีแพทย์ที่มีความชำนาญด้านการศัลยกรรมรอบดวงตา และมีการออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ โดยเศาณานนท์คลินิก Saonanon Clinic มีบริการผ่าตัดแก้ไขตาไม่เท่ากันโดยจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการตกแต่ง และเสริมสร้างบริเวณเปลือกตา เพื่อให้คนไข้ได้รับความพึงพอใจ และได้รับประโยชน์สูงสุดเสมอ เพราะเราให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่ได้ และความต้องการของผู้ที่มาใช้บริการเป็นอันดับหนึ่ง จึงมั่นใจได้ว่าหากคุณมาใช้บริการกับเรา คุณจะได้รับคำแนะนำ และการบริการที่ดีที่สุด
ตาไม่เท่ากัน คือ ภาวะที่เราสังเกตเห็นความแตกต่างของดวงตาทั้งสองข้างได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจเกิดได้จากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อายุที่เพิ่มมากขึ้น หรืออุบัติเหตุบริเวณดวงตา โดยวิธีแก้ไขตาไม่เท่ากันสามารถทำได้ทั้งการไม่ผ่าตัด และการผ่าตัด แต่การผ่าตัดจะเป็นวิธีแก้ไขที่ตรงจุด และให้ผลลัพธ์ที่ถาวรมากกว่า สำหรับใครที่สนใจแก้ไขและรักษาตาไม่เท่ากัน สามารถมาปรึกษาได้ที่เศาณานนท์คลินิก Saonanon Clinic เพราะเรามีการผ่าตัดตาสองชั้น การปรับแต่งชั้นตา เพื่อช่วยแก้ชั้นตาไม่เท่ากันให้ดูเท่ากัน โดยจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์ รับรองว่าทำออกมาถูกใจ สวย สมดุล และเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลในผลลัพธ์
Comments