top of page

จัดเรียงไขมันใต้ตาคืออะไร ช่วยแก้ปัญหาตานูน ตาคล้ำได้จริงไหม?

คุณหมอสรุปให้

  • ศัลยกรรมจัดเรียงไขมันใต้ตา คือการจัดเรียงไขมันใต้ตาใหม่ ให้โค้งรับกับบริเวณใต้ตาอย่างเหมาะสม หากทำร่วมกับการผ่าตัดหนังตาส่วนเกิน จะให้ผลลัพธ์ตาเรียบ เนียน สวยได้

  • ศัลยกรรมจัดเรียงไขมันใต้ตา ต่างจากฟิลเลอร์ที่เป็นการฉีดสาร HA เข้าไปเติมเต็ม และต่างจากดอลลี่อายที่เป็นการเติมไขมันเข้าไปในใต้ตา

  • การจัดเรียงไขมันใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาที่เกิน ร่องลึกใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย ดวงตาไม่สมดุล รวมถึงความหมองคล้ำบริเวณใต้ตา

  • การจัดเรียงไขมันใต้ตา เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาเยอะ ใต้ตานูน หย่อนคล้อย รวมถึงปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ

  • ศัลยกรรมจัดเรียงไขมันใต้ตาที่ เศาณานนท์คลินิก ที่นี่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดแก้ไขตาโดยเฉพาะ พร้อมทั้งคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ รีวิวมากมายจากผู้เข้ารับบริการที่เสริมสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ปัญหาตาบวมหรือมีถุงใต้ตาเยอะ เป็นปัญหาที่ทำให้หลายๆ คน รู้สึกกังวลไม่น้อย เพราะถุงใต้ตาที่มากเกินไป ทำให้ดวงตาดูอ่อนล้า แก่ก่อนวัย รวมถึงรอยคล้ำใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าไม่สดใส แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้หลากหลายวิธี หนึ่งในวิธีที่แก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ “การจัดเรียงไขมันใต้ตา” ที่ช่วยลดปัญหาตาบวม ถุงใต้ตาเยอะได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยให้ใต้ตาเรียบเนียนยิ่งขึ้น 

มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดเรียงไขมันใต้ตาว่าคืออะไร ใครบ้างที่เหมาะสมกับการทำ มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง รวมไปถึงตอบคำถามที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการผ่าตัดนี้ ได้ในบทความนี้เลย

การจัดเรียงไขมันใต้ตา คืออะไร

การจัดเรียงไขมันใต้ตา คือการศัลยกรรมจัดเรียงตำแหน่งไขมันใต้ตาให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม โดยการเกลี่ยไขมันให้รองรูปโค้งใต้ตาอย่างถูกต้อง เพื่อแก้ไขไขมันใต้ตาที่นูนออกมา อีกทั้งในบางเคสอาจมีการใช้เทคนิคตัดหนังตาส่วนเกินออกร่วมด้วย จะช่วยให้ผิวใต้ตากระชับขึ้น เรียบเนียน ลดปัญหาตาบวมและถุงใต้ตาเยอะได้เป็นอย่างดี 

ปัญหาตาบวม ถุงใต้ตาเยอะ เกิดจากอะไร

ปัญหาตาบวม ถุงใต้ตาเยอะ เกิดจากอะไร

ปัญหาตาบวม ถุงใต้ตาเยอะเกิดจากเนื้อเยื่อรอบดวงตาหย่อน ร่วมกับการมีไขมันที่นูนออกมามากขึ้น แม้ว่าจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก่อให้เกิดความกังวลในใบหน้าได้ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้ มีด้วยกันหลายปัจจัย ได้แก่

  • พันธุกรรม: ในบางรายอาจมีพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดถุงใต้ตาเยอะได้ง่ายกว่าปกติ

  • อายุ: เมื่อมีอายุมากขึ้น อีลาสตินและคอลลาเจนในจะผิวลดลง ทำให้ไขมันที่ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยจนเห็นถุงใต้ตานูนชัดเจน

  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน: ความเครียด พฤติกรรมการกินอาหารบางอย่าง การดื่มแอลกอฮอล์ การขยี้ตาแรงๆ ดื่มน้ำน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนแต่ส่งผลให้เกิดถุงใต้ตาบวมขึ้นมาได้

การจัดเรียงไขมันใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

การจัดเรียงไขมันใต้ตาสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดังนี้

  • แก้ปัญหาถุงใต้ตาที่เกินออกมามาก ลดความนูน เพิ่มความเรียบเนียน

  • แก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา เพราะการจัดเรียงไขมันใหม่จะช่วยเกลี่ยไขมันให้เติมเต็มในจุดที่ไขมันหายไปได้

  • แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา เพราะสามารถทำร่วมกับการตัดผิวหนังส่วนเกินออกได้ จึงเพิ่มความกระชับมากขึ้น

  • แก้ปัญหาดวงตาไม่สมดุล เพราะสามารถกระจายไขมันได้อย่างเท่าเทียม จึงช่วยปรับรูปลักษณ์ดวงตาให้ดีขึ้น

  • แก้ปัญหาความหมองคล้ำใต้ตา เพราะมีไขมันเข้าไปเติมเต็มในจุดที่เกิดความหมองคล้ำ ดวงตาจึงสว่างมากขึ้น

จัดเรียงไขมันใต้ตา VS ฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างกันอย่างไร

จัดเรียงไขมันใต้ตา VS ฟิลเลอร์ใต้ตา ต่างกันอย่างไร

แม้ว่าทั้งสองหัตถการจะมีจุดประสงค์เดียวกัน คือ ช่วยลดปัญหาถุงใต้ตาเยอะ เติมเต็มร่องลึก ปรับปรุงดวงตาให้สมดุล อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่างจัดเรียงไขมันใต้ตา VS ฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถอธิบายได้ดังนี้

การจัดเรียงไขมันใต้ตา เป็นการผ่าตัดเพื่อจัดเรียง โดยจะทำผ่านแผลด้านในเปลือกตา เริ่มจากการตัดเอ็นที่ยึดระหว่างผิวหนังกับกระดูกใต้ตา ที่ทำให้เกิดเป็นร่องรูปพระจันทร์ให้แยกจากกัน ร่องจะตื้นขึ้นทันที  แล้วนำไขมันที่นูนเกินออก หลังจากนั้น จะนำไขมันที่อยู่ใต้ตาเดิมย้ายออกมาด้านหน้า เพื่อมารองร่องรูปพระจันทร์ดังกล่าว เพื่อเติมเต็มให้เรียบเนียน ให้ผลลัพธ์ระยะยาว เพราะเป็นการจัดเรียง ลบไขมัน และผู้ป่วยที่หนังตาเกินแพทย์จะตัดผิวหนังเพิ่มเติมได้ เป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาในระดับโครงสร้าง มีปัญหาความหย่อนคล้อยและถุงใต้ตานูนออกมามาก

ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในบริเวณใต้ตาในชั้นใต้ต่อมผิวหนัง ไม่ได้เข้าไปในชั้นลึกที่ชิดกระดูกใต้ตา และไม่ได้ตัดเอ็นที่ยึดผิวหนังกับกระดูกใต้ตาออก โดยการฉีดจะทำเพื่อเติมร่องใต้ตาระดับตื้นให้เต็ม ลดปัญหาร่องลึก ถุงใต้ตาเรียบเนียนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องรอพักฟื้น แต่ผลลัพธ์การฉีดอยู่ได้นานเพียง 6- 18 เดือน และต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่เสมอ เป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาและร่องลึกไม่มาก และไม่ต้องการผ่าตัดหรือพักฟื้น

จัดเรียงไขมันใต้ตา VS ดอลลี่อาย ต่างกันอย่างไร

จัดเรียงไขมันใต้ตา VS ดอลลี่อาย ต่างกันอย่างไร

อย่างที่ทราบแล้วว่าการจัดเรียงไขมันใต้ตา เป็นการจัดระเบียบไขมันใต้ตาให้เรียงอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม รวมถึงมีการนำไขมันออกและตัดผิวหนังส่วนเกินด้วย เพื่อลดความนูน สร้างความเรียบเนียนให้กับถุงใต้ตา 

ในขณะที่ดอลลี่อาย เป็นเทคนิคที่ใช้การเติมไขมันโดยการฉีด หรือการใช้เนื้อเยื่อเทียมเติม เข้าไปในบริเวณใต้ตา หน้าต่อกล้ามเนื้อรอบตาที่ชิดกับแนวขนตาล่าง เพื่อให้ใต้ตามีแนวโค้งที่หนาและนูนขึ้น สามารถเห็นขอบตาได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวลายิ้มหรือหัวเราะ ซึ่งจะช่วยให้ตาดูโตขึ้น และใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

จัดเรียงไขมันใต้ตา เหมาะกับใคร

การจัดเรียงไขมันใต้ตาเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่างๆ ดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาถุงไขมันใต้ตาเยอะ มีไขมันใต้ตานูนออกมามาก เกิดความไม่เรียบเนียน

  • ผู้ที่มีปัญหาร่องลึกบริเวณใต้ตา ทำให้ตาโบ๋

  • ผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย ถุงใต้ตาหย่อนลงมามาก

  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ไม่สดใส

  • ผู้ที่มีผิวหนังส่วนเกินบริเวณใต้ตาเยอะ

  • ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาและต้องการแก้ไขอย่างตรงจุด ในระดับโครงสร้าง 

เปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสียของการจัดเรียงไขมันใต้ตา 

ก่อนตัดสินใจทำการจัดเรียงชั้นไขมันใต้ตา มาดูข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณาก่อนการทำ ดังนี้

ข้อดีของการจัดเรียงไขมันใต้ตา

  • สามารถออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้

  • ปรับปรุงลักษณะดวงตาให้สมดุล ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสมากขึ้น

  • เนื่องจากการผ่าตัดจะตัดเอ็นที่ยึดผิวหนังกับกระดูกใต้ตารูปวงพระจันทร์ ทำให้ร่องตื้นขึ้นแบบถาวร เมื่อเทียบกับก่อนผ่าตัด และช่วยให้แพทย์ยกกระชับหนังใต้ตาได้มากขึ้นมากกว่าที่ไม่ได้ตัดเอ็นดังกล่าว 

  • การจัดเรียงไขมันใต้ตา เป็นการเกลี่ยไขมันเดิมที่มีอยู่โดยไขมันยังมีเส้นเลือดเลี้ยงอยู่  โอกาสที่ไขมันจะสลายไปจึงน้อยกว่าการปลูกถ่ายไขมันที่ไม่มีเส้นเลือดเลี้ยงชัดเจน 

  • ใช้เวลาการพักฟื้นน้อย สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังจากผ่าตัดได้ไม่กี่สัปดาห์

  • ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและยาวนานกว่าหัตถการแบบอื่น

ข้อเสียของการจัดเรียงไขมันใต้ตา

  • มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด เช่น อาการบวม ช้ำ ติดเชื้อ ผลข้างเคียงจากยาชาและยาสลบ

  • จำเป็นต้องพักฟื้นหลังผ่าตัด จึงอาจส่งผลต่อกิจวัตรประจำวัน

  • การผ่าตัดจัดเรียงไขมันใต้ตามีความซับซ้อน ต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางและมีประสบการณ์สูง

  • หากมีปัญหาตาลึกมาก อาจต้องทำร่วมกับหัตถการอื่นเพื่อเติมเต็มดวงตาด้วย

ควรรู้! ความเสี่ยงจากการจัดเรียงไขมันใต้ตา

ทุกการผ่าตัดล้วนมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ การจัดเรียงไขมันใต้ตานั้นเป็นหนึ่งในการผ่าตัดที่ซับซ้อน จึงอาจเกิดความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนได้ ดังนี้

  • มีโอกาสเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด อย่างไรก็ตามสามารถป้องกันได้โดยการดูแลแผลอย่างถูกวิธี

  • หลังการผ่าตัดมักมีอาการบวมและช้ำเกิดขึ้น ซึ่งสามารถลดลงได้ภายในไม่กี่วัน

  • ผลลัพธ์การผ่าตัดอาจไม่ตรงตามที่คาดหวัง 

  • อาจรู้สึกชาในบริเวณที่ผ่าตัด

  • อาจเกิดปัญหาในการหลับตาหรือการเสียดสีของเปลือกตา

  • ผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ แต่ปกติเป็นการผ่าที่ไม่นาน และ ไม่เจ็บ ดังนั้น การผ่าตัดจะใช้ยาชาเฉพาะที่เป็นหลัก

  • มาตราฐานในปัจจุบัน แพทย์จะทำผ่านแผลด้านในเปลือกตา เกือบทุกเคส ดังนั้น จะไม่มีแผลผิวหนังใต้ตา จะมีแผลยกกระชับในบางเคสที่จำเป็นต้องยกใต้ตา โดยมีแผลซ่อนไว้ที่ร่องหางตา

ดังนั้นควรพิจารณาถึงความเสี่ยงในการผ่าตัด รวมถึงปรึกษาและให้ข้อมูลแพทย์อย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาและลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้

การเตรียมตัวก่อนจัดเรียงไขมันใต้ตา 

การเตรียมตัวก่อนจัดเรียงไขมันใต้ตาที่ดีจะช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยสามารถเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดได้ ดังนี้

  • เข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องการจัดเรียงไขมันใต้ตา แจ้งผลลัพธ์ที่ต้องการ เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าเหมาะสมต่อการผ่าตัดหรือไม่

  • แจ้งประวัติการรักษา ประวัติการทำหัตถการ รวมถึงประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว และยาที่ทานประจำ

  • งดการทานยา อาหารเสริม และวิตามินบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นต้น อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

  • ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ

  • วางแผนการเดินทางไป-กลับ โดยหลีกเลี่ยงการขับรถหรือเดินทางด้วยตนเอง เพราะหลังการผ่าตัดจะทำให้ทัศนวิสัยลดลง

ขั้นตอนในการจัดเรียงไขมันใต้ตา 

วิธีการจัดเรียงไขมันใต้ตามีดังนี้

  1. ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์ออกแบบรูปทรงใต้ตาได้อย่างเหมาะสม

  2. แพทย์ให้ยาชาหรือยาสลบ เพื่อช่วยคลายกังวลและความเจ็บปวดในระหว่างการผ่าตัด

  3. เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณเปลือกตาล่างด้านในเนื้อแดงใต้ตา

  4. แพทย์จะตัดเอ็นใต้ตารูปวงพระจันทร์  แล้วตัดไขมันที่เกิน แล้วจึงจัดเรียงไขมันใต้ตา เพื่อให้ใต้ตาเรียบเนียน ได้รูปทรงตามแผนการรักษาที่วางไว้

  5. ในเคสที่ต้องการยกกระชับโดยเฉพาะรายที่อายุมาก  แพทย์จะลงแผลหางตา แล้วเย็บดึงเพื่อยกกระชับ 

  6. ในเคสที่อายุมาก หรือเคสที่มีภาวะหนังเกินมาก แพทย์จะลงแผลใต้ตาหยิบดีงตัดหนังที่เกินออกไปด้วย 

  7. เย็บปิดแผลด้วยเทคนิคพิเศษของแพทย์ ที่จะซ่อนรอยแผลและป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น

การดูแลตัวเองหลังจัดเรียงไขมันใต้ตา

การดูแลตัวเองหลังจัดเรียงไขมันใต้ตา จะช่วยให้ผลลัพธ์การผ่าตัดมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ โดยสามารถดูแลตนเองได้ดังนี้

  • หลังการผ่าตัด 3 วันแรก ให้นอนยกศีรษะสูง และใช้การประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม

  • ระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ และงดการล้างหน้าใน 3 วันแรก หลังจากนั้นสามารถทำความสะอาดใบหน้าได้ตามปกติ

  • สวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดและมลภาวะเข้าตา ประมาณ 1 สัปดาห์

  • งดการสัมผัส จับ กดทับ และขยี้ตา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบหรือแผลฉีกขาด

  • งดการใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาและเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาจนกว่าแผลจะหายสนิท

  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารแสลง หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์

  • งดการใส่คอนแท็กต์เลนส์ อย่างน้อย 3 สัปดาห์

  • รับประทานยาและปฏิบัติตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

เลือกคลินิกจัดเรียงไขมันใต้ตาอย่างไรให้ปลอดภัย

การจัดเรียงชั้นไขมันใต้ตาเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน จึงต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด และได้ผลลัพธ์ตามความต้องการ โดยสามารถเลือกคลินิคผ่าตัดจัดเรียงไขมันใต้ตาได้ ดังนี้

  • คลินิกมีความสะอาด น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน และมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง

  • ผ่าตัดโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูง

  • สามารถดูแลและให้คำปรึกษาได้ตลอดแผนการรักษา

  • มีผลงานและรีวิวแต่ละเคส โดยเลือกเคสที่มีความใกล้เคียงกับปัญหาของตนเองมากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการรักษาที่พึงพอใจ

ทำไมต้องจัดเรียงไขมันใต้ตา ที่เศาณานนท์คลินิก (Saonanon)

การจัดเรียงไขมันใต้ตา ที่เศาณานนท์คลินิก (Saonanon)  ดีกว่าที่อื่น เพราะคลินิกมีจุดเด่นดังต่อไปนี้

  • มีแพทย์ที่ชำนาญด้านการผ่าตัดแก้ไขตาโดยเฉพาะ ทุกเคสจะผ่าตัดโดยรศ. พญ. เปรมจิต เศาณานนท์ แพทย์จักษุตกแต่ง

  • คลินิกสะอาด ได้มาตรฐาน

  • มีรีวิวศัลยกรรม ให้เทียบดูความแตกต่าง ระหว่าง before-after

รีวิวจัดเรียงไขมันใต้ตา ที่เศาณานนท์คลินิก (Saonanon)

รีวิวจัดเรียงไขมันใต้ตา ที่เศาณานนท์คลินิก (Saonanon)
รีวิวจัดเรียงไขมันใต้ตา ที่เศาณานนท์คลินิก (Saonanon)
รีวิวจัดเรียงไขมันใต้ตา ที่เศาณานนท์คลินิก (Saonanon)

สรุป

การจัดเรียงไขมันใต้ตาเป็นเทคนิคที่ช่วยกระจายไขมันใต้ตาให้เรียงตัวกันอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยแก้ปัญหาตาบวม ถุงใต้ตาเยอะ สร้างใต้ตาที่เรียบเนียนและกระชับมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาเยอะระดับรุนแรง มีความหย่อนคล้อยมาก และต้องการแก้ไขอย่างตรงจุด การผ่าตัดจัดเรียงไขมันใต้ตามีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณา แม้จะสามารถช่วยให้ผิวใต้ตาเรียบเนียน และให้ผลลัพธ์ยาวนาน แต่ก็มีความเสี่ยงจากการผ่าตัดและจำเป็นต้องพักฟื้นอีกด้วย ดังนั้นควรเตรียมตัวให้ดีทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด เพื่อให้ให้ผลลัพธ์ออกมาดี 

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์เฉพาะทาง เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด อย่าง เศาณานนท์คลินิก (Saonanon) ที่มีจักษุแพทย์ผู้ชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษา แก้ไขอย่างตรงจุดและตรงใจในทุกเคส

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจัดเรียงไขมันใต้ตา (FAQs)

ทางคลินิกได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจัดเรียงไขมันใต้ตา พร้อมคำตอบมาให้แล้ว

การจัดเรียงไขมันใต้ตา เจ็บไหม

ก่อนการผ่าตัดจัดเรียงไขมันใต้ตา มีการใช้ยาชาหรือยาสลบเพื่อลดความเจ็บปวดขณะผ่าตัด และเมื่อเสร็จสิ้นการผ่าตัดแล้ว อาจมีอาการปวดตึงอยู่บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการผ่าตัด โดยแพทย์จะทำการจ่ายยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการให้

การจัดเรียงไขมันใต้ตา พักฟื้นนานไหม

หลังการผ่าตัดจัดเรียงไขมันใต้ตาจะมีอาการบวมช้ำ ซึ่งจะค่อยๆ ลดลงและหายไปในช่วง 2-4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม คนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองและการฟื้นฟูร่างกายของแต่ละบุคคล

จัดเรียงไขมันใต้ตา ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่ปี

ผลลัพธ์การผ่าตัดจัดเรียงไขมันใต้ตาสามารถอยู่ได้นาน 5-10 ปี ทั้งนี้ หากผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตามีการเสื่อมลง ก็สามารถทำให้กลับมาเป็นถุงใต้ตาบวมและหย่อนคล้อยได้อีก


ดู 45 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page